✪ บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ กับบทสรุปหลังทัพ “หงส์แดง” คว้าถ้วยไปครอง ✪

บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ

บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ กับบทสรุปหลังทัพ “หงส์แดง” คว้าถ้วยไปครอง

บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์ พบกับ เชลซี ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2022 เวลา 22:45 ตามเวลาประเทศไทย บทสรุปแล้วก็เป็นฝ่ายที่ คว้าแชมป์ไปครอง

ดิอาซ ดีลที่ดีที่สุดของฤดูกาล

บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ

ดิอาซ ลงสนามด้วยสถิติความพยายามจบสกอร์ 6 ครั้ง นับว่ามากที่สุดในสนามเลยทีเดียว แต่ก็น่าเสียดายเมื่อโชคนั้นไม่เข้าข้างดาวเตะชาว โคลอมเบีย เขากลายเป็นแข้งที่วูบวาบที่สุดของ “หงส์แดง” หรือให้ใกล้กับความเป็นจริงมากกว่านั้นคือ เจ้าตัวนั้นโดดเด่นที่สุดในบรรดาแนวรุกของทั้งสองทีมในคืนนั้นเลยก็ว่าได้

อาการบาดเจ็บของดาวเตะทั้งสอง

บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ

สิ่งที่ “เดอะค็อป” ไม่อยากให้เกิดขึ้นจริง ๆ เลยก็ คือ การต้องเห็นนักเตะคนสำคัญของเขาได้รับบาดเจ็บในช่วงโค้งสุดท้ายเช่นนี้ เพราะว่าในตอนนี้ศึก “พรีเมียร์ลีก” เพียงไม่กี่อึดใจก็จะถึงบทสรุปกันแล้ว ขณะที่นัดชิงชนะเลิศ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” กับ “เรอัล มาดริด” ที่รออยู่สิ้นเดือนนี้ ซึ่งทางฝั่งของ “ซาลาห์” นั้นได้รับอาการบาดเจ็บอย่างรุนแรงจนไม่สามารถเล่นต่อได้ในช่วงครึ่งแรกจนต้องถูกเปลี่ยนตัวไปในที่สุด ในขณะที่ “ฟาน ไดค์” ถูกเปลี่ยนตัวออกเมื่อจบเกม 90 นาที ขณะที่ “แอนดี้ โรเบิร์ตสัน” ไม่แน่ชัดนักว่าถูกอาการบาดเจ็บเล่นงานหรือไม่ โดยสภาพร่างกายของทั้ง 3 คนนี้ยังคงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดต่อไป

สถิใหม่ของ “เชลซี” ใน “เอฟเอ คัพ”

บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ

ความปราชัยในเกมนี้ ส่งผลให้ “เชลซี” ทำสถิติเป็นสโมสรแรกที่เข้าชิงติดต่อกัน 3 ฤดูกาล และพลาดแชมป์ไปทั้งหมด นับตั้งแต่ปี 2020 ในยุคของ “แฟรงค์ แลมพาร์ด” พวกเขาพ่ายต่อ “อาร์เซนอล” ด้วยสกอร์ 2-1 ในปีที่แล้วก็โดน “เลสเตอร์ ซิตี้” พลิกล็อคชนะจากประตูของ “ยูริ ติเลอมองส์” ด้วยสกอร์ 1-0 และในปีนี้ก็ได้พ่ายต่อ “ลิเวอร์พูล” ในการดวลจุดโทษในช่วงโค้งสุดท้ายของเกม

เกมรุกของ “เชลซี” ยังคงย่ำอยู่กับที่

บทความฟุตบอล เอฟเอ คัพ

หากเราจะบอกว่า “เชลซี” ได้สร้างโอกาสในการทำประตูสวย ๆ อยู่หลายครั้ง แต่มันก็เพียงเท่านั้นในเมื่อพวกเขาไม่สามารถฉกฉวยโอกาสเหล่านั้นเอาไว้ได้เลย นอกจากนี้มันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเหล่าบรรดาตัวสำรองในปีนี้แทบไม่มีใครมีคุณภาพมากพอจะสามารถลงมาเป็นตัวเปลี่ยนเกมได้เลย โดยเฉพาะตัวแหน่งสำคัญอย่าง “วิงแบ็ค” หรือแม้แต่ในแนวรุกก็ตาม มันช่างเป็นเรื่องที่น่าเสียดายที่ “ไค ฮาเวิร์ตซ์” ดันมาเจ็บเสียก่อน มิฉนั้นเราอาจจะได้เห็นเขาลงมาพลิกเกมได้ในช่วงท้าย ซึ่งนี่จะเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้กลุ่มทุนชุดใหม่ ต้องรีบสะสางทันทีทันใดในฤดูร้อนนี้ หากต้องการจะพาทีมกลับสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้ง

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก 

ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา

รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @GURUCAFEV2 

https://bit.ly/3pu5Tar