AFF ซูซูกิคัพ ข่าวบอล ทีมยอดเยี่ยม ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มีนักเตะทั้งหมด 11 คน จะมีใครบ้างที่ติดโผมาดูกัน
AFF ซูซูกิคัพ ข่าวบอล ทีมยอดเยี่ยม ของทีมช้างศึก หลังจากจบศึกชิงแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ทั้งหมด 11 คน
ผู้รักษาประตู : ฉัตรชัย บุตรพรม
นายด่านทัพช้างศึก ยึดมือหนึ่งในทีมของ มาโน โพลกิ้ง ก่อนทำผลงานได้น่าประทับใจในแง่การตอบโจทย์วิธีการเล่นของกุนซือชาวบราซิล ตลอดทัวร์นาเมนต์เจ้าตัวมีโอกาสลงเฝ้าเสา 5 เกม เก็บ 3 คลีนชีต และมีส่วนสำคัญกับความสำเร็จของทีมในครั้งนี้ แม้จะโชคร้ายได้รับบาดเจ็ยหนักในเกมรอบตัดเชือกก็ตาม
แบ็คขวา : นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม
แบ็คขวาจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นตัวเลือกแรกทางกราบขวาของทีมชาติไทยในรายการนี้ ก่อนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตามมาตรฐานของตัวเอง พร้อมทำ 3 แอสซิสต์ช่วยให้ทีมก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์ได้สำเร็จ
เซ็นเตอร์แบ็ค : กฤษดา กาแมน
ปราการหลังวัย 22 ปี เล่นได้อย่างโดดเด่นในทัวร์นาเมนต์นี้ แม้ว่านี่จะเป็นเวทีในนามทีมชาติชุดใหญ่ที่เขาได้รับโอกาสครั้งแรกก็ตาม กฤษดาแสดงให้เห็นถึงศาสตร์เกมรับที่ยอดเยี่ยมทั้งการเข้าสกัด, การแย่งบอล และดวลลูกกลางอากาศ ยิ่งไปกว่านั้นเขายังบิ้วด์อัพเกมได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแน่นอนว่ามันเป็นสไตล์การเล่นที่ตอบโจทย์มาโน โพลกิ้ง
เซ็นเตอร์แบ็ค : มานูเอล ทอม เบียร์ห
แนวรับวัย 28 ปี โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งเมื่อจับคู่กับ กฤษดา กาแมน ซึ่งตลอด 5 เกมที่เขาลงเล่น ช่วยทีมเก็บคลีนชีตได้ถึง 4 นัด โดยมีจุดเด่นทั้งการเคลียร์บอล, ดวลลูกกลางอากาศ และเข้าสกัดบอลที่แม่นยำ
แบ็คซ้าย : ธีราทร บุญมาทัน
แบ็คซ้ายวัย 31 ปี คือคีย์แมนผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของทัพช้างศึกในทัวร์นาเมนต์นี้ กับสถิติที่ยอดเยี่ยมทั้งการจ่ายบอลและสร้างสรรค์เกมให้ทีมชาติไทย นอกจากนั้นยังมีวิธีการเล่นที่ยืดหยุ่นตอบโจทย์แท็คติกของ มาโน โพลกิ้ง ได้เป็นอย่างดี
กองกลาง : สารัช อยู่เย็น
จับคู่กับ พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล ได้อย่างลงตัวหรือจะเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมรายอื่นก็ยังคงเล่นได้ราบรื่น ออกบอลแม่นยำ เฉียบขาด ปฏิเสธไม่ได้ว่า รูปแบบการเล่นแดนกลางของทีมชาติไทยที่ไหลลื่นนั้นมาจากความยอดเยี่ยมของเขาที่ทำหน้าที่ของตัวเองได้แข็งแกร่งตลอดทัวร์นาเมนต์
กองกลาง : พิธิวัตต์ สุขจิตธรรมกุล
ถือเป็นผู้เล่นที่ฟอร์มคงเส้นคงวามากที่สุดคนหนึ่ง สำหรับมิดฟิลด์จาก ลีโอ เชียงราย ยูไนเต็ด ผ่านบอลแม่นยำทั้งลูกใกล้ และไกล ตัดเกมหนักหน่วง ตัดสินใจเด็ดขาด อ่านเกมเยี่ยมได้เปรียบบ่อยครั้งยามเข้าปะทะคู่แข่ง มีส่วนสำคัญทั้งเกมรับ และรุก กับสไตล์การเล่นที่เปรียบเสมือนมดงานที่ทำให้ ช้างศึก เดินหน้ากลับสู่ความยิ่งใหญ่บนบัลลังก์เจ้าอาเซียนอีกครั้ง
ปีกขวา : เหงียน กวง ไฮ
ปิดฉากเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ด้วยความผิดหวังสำหรับแนวรุกตัวความหวังของแชมป์เก่าอย่างเวียดนาม แต่ฟอร์มการเล่นของเขายังรักษามาตรฐานความน่ากลัวเอาไว้ แม้กระทั่งในเกมที่แพ้ ไทย 0-2 กวง ไฮ ยังคงแสดงให้เห็นว่า เขายังเป็นผู้เล่นสุดอันตรายที่สร้างความกดดันใส่คู่แข่งทุกครั้งยามบอลออกจากเท้าซ้ายของเขา
กองกลาง : ชนาธิป สรงกระสินธ์
กองกลางดีกรีแข้งยอดเยี่ยมเจลีก 2018 โชว์ความเหนือชั้นที่ทำให้คู่แข่งได้เห็นความแตกต่างในฝีเท้าจากประสบการณ์โชกโชนในลีกแดนซามูไร ซึ่งในทัวร์นาเมนต์นี้ยังแสดงภาวะความเป็นผู้นำไม่ว่าจะโดนอัดหนักแค่ไหน แต่ยังคงคุมอารมณ์อยู่ สิ่งที่น่าชื่นชมที่สุดคือการขับเคลื่อนแดนกลาง และจังหวะจบสกอร์ที่ทำได้ยอดเยี่ยมทั้งเท้าซ้าย และขวา ซึ่งนอกจากจะคว้าดาวซัลโวร่วมกับ ธีรศิล์ แดงดา ( 4 ประตู) เขายังเป็นผู้เล่นคนแรก และคนเดียวในประวัติศาสตร์ที่คว้ารางวัล MVP เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ มากถึง 3 สมัย ในปี 2014, 2016 และ 2020 ซึ่งจบลงด้วยแชมป์ของทีมชาติไทยทั้งหมด
ปีกซ้าย : วิทาน สุไลมาน
มิดฟิลด์วัย 20 ปี อาจยังมีประสบการณ์น้อยในเวที ซูซูกิ คัพ แต่กลับกลายเป็นกำลังหลักของ อินโดนีเซีย ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมมาตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มกับทักษะการเล่นที่ไม่ธรรมดา มีความเข้าใจกับเพื่อนร่วมทีม และจบสกอร์ได้นิ่งเกินวัย ถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ทำให้ อินโดนีเซีย ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งที่ 6 แต่ยังไปไม่ถึงฝัน
กองหน้า : ธีรศิลป์ แดงดา
กองหน้าวัย 33 ปี ตอกย้ำความเป็นยอดศูนย์หน้าในอาเซียน จากการยิงไป 4 ประตู และมีส่วนสำคัญพาทีมชาติไทย เถลิงบังลังก์แชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 มาครองอย่างยิ่งใหญ่ และเป็นแชมป์สมัยที่ 6 ของ ช้างศึก คว้ารางวัลดาวซัลโวสูงสุดร่วมกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ยิ่งกว่านั้นทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้เขาสามารถทำลายสถิติของ นอร์ อลัม ชาห์ ขึ้นเป็นดาวซัลโวสูงสุดตลอดกาลด้วยจำนวน 19 ประตู
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @GURUCAFEV2
