สเปอร์ส ตอนนี้ระบบทีมเต็มร้อย แต่นักเตะยังฝีเท้าไม่ถึงขั้น

ในช่วงเวลาสองปีที่ผ่านมาของ “สเปอร์ส” กับการเปิดบ้านรับแรงกระแทกจาก “นิริช” นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพวกเขาเลยครั้ง โดยครั้งสุดท้ายที่สองยักษ์นี้หวนมาเจอกันในศึก “พรีเมียร์ลีก” คือตอนที่พวกเขาได้หวนคืนสู่สนามแข่งได้ในปี 2020 ที่สามารถคว้าชัยชนะของเจ้าบ้านแบบฉิวเฉียบด้วยสกอร์ 2-1 ท่ามกลางวิกฤตจากผู้เล่นบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

ภายใต้การนำทัพของ “มูรินโญ” เหมือนจะฝากความหวังไว้กับฝีเท้าของ “แฮร์รี่ เคน” หรือ “ซน ฮึง มิน” ในการช่วยแบกผู้เล่นคนอื่น ๆ ในทีมเอาไว้บนบ่า แต่สุดท้ายวิธีของบอสใหญ่รายนี้ก็ค่อย ๆ แบไต๋จุดอ่อนของตัวเองออกมา และมันก็สายไปแล้วที่จะแก้ไขได้ทัน เนื่องจากไม่มีระบบใดเลยที่จะนำมาปรับเปลี่ยนใช้แทนที่ในตอนนั้น

เมื่อช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ในเกมล่าสุดของพวกเขา มันบ่งว่าพวกเขากำลังเข้าใจในสิ่งที่กุนซือกำลังคิดอยู่อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ตำแหน่งการเล่นถูกขยับขยายออกเป็นวงกว้างมากกว่าเดิม แต่ที่เราจะไม่พูดถึงเลยคงเป็น “ไรอัน เซสซิญง” ที่ได้ถูกส่งลงสนามแทน “เรกีลอน” ที่ได้รับบาดเจ็บในขณะนั้น ซึ่ง “ซน” และ “มูรา” ต่างก็วิ่งหาช่องว่างเพื่อสร้างโอกาสให้กับทีม

มันเป็นการแสดงออกถึงการประสานงานของเพื่อนร่วมทีมที่สวยงามก่อนที่นักเตะชาว “เกาหลี” จะผ่านบอลไปให้ “ลูคัส” หวดลูกหนังเข้าไปตังตาข่ายทำให้ทีมนำไปก่อน 1-0 หลังจากการจบสกอร์ในตอนนั้นพวกเขาก็ไม่ได้ทำให้ “นอริช” รู้สึกหวั่นซักเท่าใด และอันที่จริงในช่วงครึ่งแรก และครึ่งหลัง ของพวกมีโอกาสครองบอลได้น้อยกว่าทีมคู่แขงเสียด้วยซ้ำ อีกทั้งทางฝั่งทีมเยือนยังมีโอกาสทำประตูได้อยู่หลายหน

หากเป็นกับทีมที่มีกองหน้าคุณภาพมากกว่า ตีมู ปุ๊กกี้ , อดัม ไอดาห์ และ จอช ซาร์เจนต์ “สเปอร์ส” คงมิวายโดนตามตีเสมอไปแล้ว

สำหรับ “ดาวินสัน ซานเชซ” คงจะรู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่ตนต้องเป็นคนขึ้นเกมจากแดนหลัง ขณะที่ “อูโก ยอริส” ก็เกือบจะทำให้ทีมเยือนทำประตูตีเสมอหลังจากขึ้นนำได้ไม่นาน

ในขณะที่ผู้เล่นของ “สเปอร์ส” หลาย ๆ คนอาจจะสามารถเล่นตามระบบที่ “คอนเต้” วางไว้ได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นแล้ว แต่ทว่าผู้เล่นในบางตำแหน่งอาจจะยังขาดคุณภาพไปบ้าง หากพวกเขาต้องการที่จะกลับมาเป็นทีมในระดับแนวหน้าอีกครั้ง นี่คงเป็นเรื่องที่ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด

อย่างน้อยในตอนนี้สิ่งอาจจะเป็นโอกาสที่สโมสรจะกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่อีกครั้งจากนักเตะที่ใครหลาย ๆ คนคิดว่าเกมโอเวอร์ไปแล้วเสียด้วยซ้ำ เหมือนอย่างตอนที่ “คอนเต้” ทำกับ “วิคเตอร์ โมเซส”

ในจังหวะที่ “เบน เดวีส์” นำบอลขึ้นหน้าไปจากตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค และมีส่วนร่วมกับประตูในสองลูกช่วงครึ่งหลังของ “ท็อตแนม” จากการโหม่งเปิดให้ “ซานแชซ” หวนเต็มแข้งในระยะหวังผลกับแอสซิสต์ให้ “ซน ยิง”

ซึ่งมันก็ยากที่จะเชื่อว่ากุนซืออย่าง “คอนเต้” จะทำให้ “เดวีส์” มีส่วนร่วมในเกมรุกได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะว่า “เบรนท์ฟอร์ด” จะต้องเจองานที่หินกว่านี้ในวันข้างหน้าในไม่ช้าก็เร็ว

พื้นฐานของ “คอนเต้” และการคว้า 10 แต้มจาก 4 เกมแรกในลึกมันช่างน่าประทับใจ แต่ทว่าเพดานของทีมแห่งนี้มันก็ถือว่าค่อนข้างจำกัดเมื่อเราเทียบกับสโมสรยักษ์ร่วมลีกอื่น ๆ

ผลการแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถือว่าพวกเขาทำคะแนนได้ค่อนข้างดี แต่ก็ยังคงต้องรอลุ้นในอีกเจ็ดเกมที่เหลือในเดือนธันวาคม ซึ่ง “คอนเต้” คงจะต้องพยายามผลักดันให้ผู้เล่นของเขาสามารถขึ้นสูฟอร์มเดือดของตัวเองให้ได้ และแน่นอนว่า “ยูโรปา คอนเฟอเรนซ์ลีก” ก็ยังคงเป็นเรื่องที่น่ากังวลอนู่

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก 

ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @GURUCAFEV2