✪ บทความฟุตบอล เฟรดดี้ อาดู จากยอดแข้งอนาคตไกลสู่ทีมดิวิชันสาม ✪

บทความฟุตบอล เฟรดดี้ อาดู

บทความฟุตบอล เฟรดดี้ อาดู จากวันที่เกือบได้อยู่ แมนฯ ยูฯ สู่ทีมดิวิชันสามในสวีเดน

ก่อนจะเซ็นสัญญาฉบับแรกกับ ดีซี ยูไนเต็ด เขาเคยได้รับความสนใจจากเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูน บรมกุนซือแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และถึงแม้จะพลาดการเซ็นสัญญาดาวรุ่งรายนี้ ผู้จัดการทีมระดับตำนานชาวสก็อตก็ยังจับตามองพัฒนาการของอาดูอย่างใกล้ชิด แม้จะมีอายุน้อยกว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ที่เขาเจอเกือบ 10 ปี แต่ฤดูกาลแรกของอาดูบนเวที MLS ก็ถือได้ว่าไม่เลวนัก เขายิงได้ 5 ประตู กับอีก 3 แอสซิสต์ ก่อนจะติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในปี 2006 ด้วยวัยเพียง 16 ปีเท่านั้น

ในเดือนพฤศจิกายน 2006 เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจชวนให้อาดูมาทดสอบฝีเท้าที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นเวลา 2 สัปดาห์

“ผมคิดว่าเราน่าจะสนใจ เขายังเด็ก แต่เราก็รู้จักเขามานานแล้ว” เฟอร์กูสันกล่าว

“เราเคยพยายามจะคว้าตัวเขามาอยู่ที่นี่ เมื่อหลายปีก่อน แต่เขาเซ็นสัญญากับดีซี ยูไนเต็ดไป แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดติดตามเขาเลย”

แน่นอน อาดูทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ แต่ด้วยปัญหาเรื่องเวิร์ค เพอร์มิต ทำให้เขาไม่สามารถลงเล่นในเกมอย่างเป็นทางการในประเทศอังกฤษได้ นั่นทำให้ความฝันที่จะย้ายมาอยู่กับทีมปีศาจแดงต้องสลายไปโดยปริยาย

“เฟรดดี้เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์” เฟอร์กูสันกล่าวหลังการทดสอบฝีเท้า

“เขาต้องกลับไปสหรัฐอเมริกาก่อน และเราจะติดตามเขาอย่างต่อเนื่อง ตอนที่เขาอายุ 18 ปี เราก็จะมาประเมินกันว่าเราจะทำอย่างไรต่อไป

“สิ่งที่เราทำคือการพาเขามาที่นี่ เพื่อให้เขาเห็นว่าแมนฯ ยูไนเต็ด เป็นอย่างไร เขาจะได้เห็นสถานที่ และได้ดูว่าเขาพอใจกับมันมากน้อยแค่ไหน

“เขาเป็นคนที่มีความมั่นใจสูงมาก และเป็นเด็กที่ดี แต่เราทำอะไรกับเขาไม่ได้ในตอนนี้”

จากนั้นในปี 2013 อาดูตัดสินใจเสี่ยงโชคไปอยู่กับบาเฮียในบราซิล และมันกลับกลายเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ เขาได้ลงเล่นเพียง 4 นัดตลอดทั้งปีที่แผ่นดินอเมริกาใต้ ก่อนจะตัดสินใจหาทางกลับไปเล่นในยุโรปอีกครั้ง แต่ก็พบแต่ทางตันไม่ว่าจะหันไปทางไหน จนกระทั่งในที่สุด หลังจากผ่านความล้มเหลวในยุโรปมากับทั้งเซอร์เบียและฟินแลนด์ อาดูตัดสินใจพาร่างกายและจิตใจที่บอบช้ำของตัวเองกลับมาอยู่ในทีมระดับดิวิชันสองของสหรัฐอเมริกากับ แทมป้า เบย์ โรว์ดี้ส์ แต่แม้จะเล่นในระดับนั้น อาดูก็ยังไม่สามารถโชว์ฟอร์มเก่งของตัวเองออกมาได้ จนกระทั่งถูกปล่อยตัวหลังจบฤดูกาล 2016 และไปทดสอบฝีเท้ากับ Sandecja Nowy Sacz ทีมในโปแลนด์ เมื่อปี 2017 แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดี ในปี 2018 เขากลับไปเล่นในอเมริกากับ ลาส เวกัส ไลท์ส ได้ลงเล่นไป 15 นัดในปี 2018 ก่อนที่อาดูในวัย 20 ปี จะถูกปล่อยตัวในเดือนธันวาคมและกลายเป็นนักเตะไร้สังกัดอยู่ถึง 2 ปีเต็มๆ ล่าสุด อาดูตกลงเซ็นสัญญากับ Österlen FF ทีมในระดับดิวิชันสามของสวีเดน เมื่อเดือนตุลาคม 2020 และไม่มีใครรู้ว่าต่อจากนี้อนาคตของอาดูจะเป็นอย่างไร แต่ตัวเขานั้นรู้ดีว่า เหตุผลสำคัญที่ทำให้เขาล้มเหลวในชีวิตค้าแข้งนั้นเป็นเพราะความหลงตัวเองมากเกินไป “ตลอดเวลาที่เติบโตขึ้นมา ผมเป็นนักเตะที่ดีที่สุดเสมอ คนที่ฝีเท้าต่ำกว่าผมมากๆ ในตอนนั้น พูดได้เลยว่าในตอนนี้พวกเขามีชีวิตค้าแข้งที่ดีกว่าผม” อาดูกล่าว “เมื่อไหร่ก็ตามที่ผมเห็นเด็กที่มีพรสวรรค์สูงมากสักคน แบบเหนือกว่าคนอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด แล้วเขาเล่นแบบขอไปที พยายามจะเอาตัวรอดไปด้วยพรสวรรค์ ผมก็จะบอกว่า ไม่นะ ทำแบบนั้นไม่ได้ นายทำแบบนั้นไม่ได้ ไม่งั้นต่อไปพวกเขาจะแซงหน้านายไป “เพราะตอนนั้นผมยังเด็ก”

ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก 

ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @GURUCAFEV2