บทความฟุตบอล | 7 กุนซือชาวอิตาลี ที่เคยประสบความสำเร็จ
ในการแข่งขัน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
บทความฟุตบอล | 7 กุนซือชาวอิตาลี ที่เคยประสบความสำเร็จบนเว “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” ที่เราจะนำเสนอในวันนี้ก็สืบเนื่องจากการมาของกุนซือชาวอิตาลี่อย่าง “อันโตนิโอ คอนเต้” ที่กำลังเข้ามาสร้างขวัญให้กับแฟนบอล “ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์” นอกจากเขาเคยสร้างผลงานที่ยิ่งใหย่เมื่อสัมย “อินเตอร์ มิลาน” ไว้แล้ว ความมสำเร็จครั้งอดีตเมื่อยังอยู่กับ “เชลซี” ก็ยังเป็นสิ่งที่การันตีได้เลยว่าวิธีการคุมทัพไม่เป็นสองรองใคร และนอกจาก “อันโตนิโอ คอนเต้” แล้ว วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับกุนซือชาวอิตาลี่ทั้ง 7 คน ที่ได้สร้างชื่อเสียงไว้ใน “พรีเมียร์ลีก อังกฤษ” จะมาใครบ้างนั้นเราไปชมกันเลย!!
โรแบร์โต้ ดิ มัตเตโอ
สำหรับอดีตกุนซือ “เชลซี” และ “แอสตัน วิลลา” รายนี้ไม่ได้มีฝีมือคุมทัพที่เก่งกาจอะไรนัก อีกทั้งเขาได้ห่างหายไปจากวงการลูกหนังตั้งแต่ปี 2016 แล้ว แต่ถ้าหากเราย้อนกลับไปเมื่อสมัยเขาคุมทีม “สิงห์บลู” แล้วละก็ คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาได้ทำผลงานไว้ยอดเยี่ยมเหลือเกิน ทั้งยังสร้างประวัติศาสตร์ให้กับสโมสรด้วยการคว้าแชมป์ “ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก” ได้อย่างไม่น่าเชื่อ นับว่านี่คือครั้งแรกที่พวกเขาครองแชมป์ได้ในปี 2011
คลาดิโอ รานิเอลรี่
นี่คือกุนซือรุ่นเก๋าวัย 70 ปี ที่ในปัจจุบันก็ยังคงทำหน้าที่ผู้จัดการให้กับทัพ “วัดฟอร์ด” หากย้อนไปในช่วงต้นยุค 2000 ในสมัยที่ “คลาดิโอ รานิเอลลี” ยังคงควบเจ้า “สิงห์บลู” เขาได้สร้างผลงานกับทีมไว้นับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เป็นที่ประสบความสำเร็จมากนัก เจ้าตัวได้เริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์เรื่อยมาจนฝีมือช่ำชอง และได้มีโอกาสกลับมาสู่วงการลุกหนังอีกครั้งด้วยการพา “เลวเตอร์ ซิตี้” คว้าแชมป์ลีกได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นม้ามืดที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเป็นไปได้ในฤดูการที่ 2015/2016
จิอันลูก้า วิอัลลี
หากพูดถึงอดีตกุนซือชาวอิตาลี่อีกคนของ “เชลซี” คงหนีไม่พ้น “จิอันลูก้า วิอัลลี” อย่างแน่นอน ซึ่งเขาเคยเป็นอดีตตำนานนักเตะทีมชาติอิตาลี โดยในบั้นปลายอาชีพในวงการลูกหนังเจ้าตัวเคยได้ย้ายมาเล่นให้กับ “สิงห์บลู” ในฐานะนักเตะที่ควบตำแหน่งผู้จัดการทีม จนสามารถพาทีมคว้าแชมป์ “ลีก คัพ” และ “เอฟเอ คัพ” มาได้อย่างละสมัย ก่อนที่จะผันตัวไปคุมทัพ “วัดฟอร์ด” จนถึงปี 2002 และจบเส้นทางอาชีพผู้จัดการทีมนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
คาร์โล อันเชล็อตติ
ก็ยังคงหนีไม่พ้นอดีตกุนซือของ “เชลซี” อยู่ดี ซึ่ง “คาร์โล อันเซล็อตติ” เขาคือผู้ที่เคยปลุกปั้นให้ “อาเซ มิลาน” ขึ้นสู่ทีมระดับท็อปฟอร์ม จนกระทั่งเจ้า “สิงห์บลู” คว้าตัวเขาเข้ามาคุมทัพในปี 2009 และทำให้ทีมสามารถคว้าแชมป์ทั้ง 2 รายการได้ในปีเดียวกันทั้ง “พรีเมียร์ลีก” และ “เอฟเอ คัพ” มาครองได้ตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามา แถมในช่วงสองปีหลังนั้นเขาได้ย้ายเข้ามาทัพ “เอฟเวอร์ตัน” ก่อนที่จะถูกทีม “ราชันชุดขาว” กระชากตัวกลับไปคุมทีมในฤดูร้อนที่ผ่านมา
เมาริซิโอ ซาร์รี
นี่ก็เป็นกุนซือชาวอิตาลี่รายที่ 5 แล้ว ที่เคยเขามาคุมทีม “เชลซี” เช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่าเหตุอันใดชาวอิตาลี่ทั้งหลายถึงชอบเข้ามามีเอี่ยวกับทัพ “สิงห์บลู” เหลือกัน ถึงแม้ว่าตัวเขาจะเข้ามาคุมทัพพี่สิงหืของเราได้เพียงแค่ 1 ฤดูการเท่านั้น แต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เขาพาสโมสรคว้าแชมป์ “ยูโรปาลีก” มาครองได้แบบสบาย ๆ ก่อนที่จะเข้าไปสมทบทัพกับ “ยูเวนตุส” และ “ลาซิโอ” ในปัจจุบัน
โรแบร์โต้ มันชินี
เขาคือสุดยอดกุนซือชาวอิตารี่ที่ประสบความสำเร็จในการคุมทีมในถิ่นเกิด จนกระทั่ง “แมนเชสเตอร์ ซิตี้” ทำการคว้าตัวเขาเข้ามาคุมบังเหียนเมื่อปี 2009 ซึ่งในครั้งนั้นเขาได้ขับเคลื่อน “เรือใบสีฟ้า” ทยานสู่แชมป์ “พรีเมียร์ลีก” ได้อย่างยิ่งใหญ่ในปี 2012 และยังสามารถคว้าแชมป์ “เอฟเอ คัพ” ร่วมกับทีมในปี 2011 อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ “มันซินี” ฝีไม้รายมือก็ยังคงไม่แผ่วเพราะเมื่อปีที่ผ่านมาเพิ่งจะพาทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์ ฟุตบอลยูไรในปี 2020 แบบไร้พ่ายอีกด้วย
อันโตนิโอ คอนเต้
ซึ่งกุนซือรายนี้หลังจากที่เคยสร้างชื่อเสียงไว้มากมายเมื่ออยู่กับ “ยูเวนตุส” และทีมชาติอิตาลี ในปี 2016 ทำให้เจ้า “สิงห์บลู” ได้ยื่นข้อเสนอให้เขาเข้ามาร่วมงานด้วย ด้วยการมาของ “คอนเต้” ในครั้งนี้ เขาได้นำแผนการเล่นแบบ “วิงแบ็ค” กลับมาใช้อีกครั้งจนเป็นที่นิยมจนมาถึงปัจจุบัน ซึ่งเขาเคยพา “เชลซี” ไปคว้าแชมป์ลีก 1 สมัย และ “เอฟเอ คัพ” อีก 1 สมัยด้วยกัน และเราต้องมาลุ้นกันว่ากับ “ไก่เดือยทอง. นับจากนี้ เจ้าตัวจะสามารถทำผลงานได้ดีเหมือนอย่างเคยได้หรือไม่
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1
