บทความฟุตบอล เดวิด เบ็คแฮม เปิดประวัติตำนานตลอดกาล
ของทีมชาติอังกฤษ กับลูกฟรีคิกระดับพระกาฬ
บทความฟุตบอล เดวิด เบ็คแฮม ก่อนที่เจ้าตัวจะไต่เต้าขึ้นมาให้เป็นระดับตำนานของวงกาลลูกหนังได้นั้น หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้เลยว่า ก่อนหน้านี้มีเหล่าแฟนบอลอังกฤษไม่น้อยเลยที่ไม่ชอบขี้หน้าเขา สาเหตุนั่นคงเป็นเพราะเขาคือ นักเตะทีมชาติอังกฤษ ที่ถูกใบแดงในสนาม และใบแดงใบนั้น ทำให้ทีมชาติอังกฤษ ตกรอบฟุตบอลโลก ในปี 1998
ในวันนั้นสื่อหลายแห่งในอังกฤษ ออกมาโจมตีเขากันอย่างหนักหน่วง แถมแฟนบอลยังนำเสื้อที่มีชื่อของเจ้าตัวมาเผาเพื่อปลุกปั่นอีกด้วย แต่ใครจะรู้ว่า เขาคนนี้จะกลายเป็นนักเตะระดับตำนานของทีมชาติอังกฤษอีกคน
จุดเริ่มต้น
เดวิด เบ็คแฮม ได้กำลืมตาขึ้นมาครั้งแรกในกรุงลอนดอน ณ ประเทศอังกฤษ เขาเกิดในครอบครัวที่ไม่ได้มีฐานะที่ร่ำรวย และเขายังเป็นแฟนบอยของสโมสร “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” อีกด้วย เขามีความฝันที่อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพมาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ทุก ๆ ครั้งที่ผู้ใหญ่ หรือคุณครูมาถามถึงความฝันของเขา เขาก็ไม่ยั้งคิด และตอบออกไปว่า “ผมอยากเป็นนักฟุตบอล”
แบ็คแฮม ได้เริ่มต้นเส้นทางของลูกหนังด้วยการเข้าฝึกซ้อมกับสโมสรรุ่นเยาชนของ “แมนฯ ยูไนเต็ด” ด้วยวัยเพียง 10 ขวบ และในที่สุดเขาก็สามารถก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ หลังจากนั้นไม่นานเจ้าตัวก็เริ่มมีชื่อเสียงที่มากขึ้น จากการยิงลูกไกลเกือบครึ่งสนาม และลูกฟรีคลิกสวย ๆ ไว้อีกมากมาย
ทั้งนี้ “เบ็คแฮม” ยังได้ขึ้นชื่อว่าตำนานเบอร์ 7 ตลอดกาลของทัพ “ปีศาจแดง” เราเชื่อว่าในทุกวันนี้แฟนบอลหลายบ ๆ คน ก็ยังคงไม่ลืมเขาในฐานะนักเตะ “แมนยู” ที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนหนึ่งเลยละ
นักเตะทีมชาติอังกฤษ ที่แฟนบอลต้องจดจำไว้ตลอดกาล
เจ้าตัวได้มีโอกาสในการรับใช้ชาติไว้หลายครั้ง แต่นักที่ทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่โด่งดังไปทั่วโลก คือในเกมที่ทีมชาติอังกฤษ ต้องเจอกับ ทีมชาติอาร์เจนตินา เมื่อ 1998 ในตอนนั้นเขายังคงหนุ่มแน่น และยังควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าที่ควบ เขาใช้วิธีสกปรกใส่ “ดิเอโก้ ซิเมโอเน่” ทำให้ท้ายที่สุดก็ต้องออกจากสนามไปด้วยใบแดง
ในตอนนั้นเขาได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า “ผมไม่เคยรุ้สึกโดดเดี่ยวเท่านี้มาก่อนในชีวิต” และเจ้าตัวก็รู้ดีว่าเขานั่นแหละคือต้นเหตุที่ทำให้ทีมชาติอังกฤษต้องพ่ายแพ้
แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องร้ายไปทั้งหมด เพราะว่าเจ้าตัวยังยอมแพ้กับเส้นทางของลูกหนัง พยายามก้มหน้าก้มตาซ้อมเพื่อรอวันที่จะได้พิสูจน์ตนต่อแฟนบอลทีมชาติอังกฤษจะกลับมารักเขาอีกครั้ง และความพยายามของเขาก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ เพราะหลังจากนั้น เจ้าตัวได้สร้างลูกฟรีคลิกที่สุดแสนจะเพอร์เฟ็ค ช่วยให้ทีมชาติอังกฤษ คว้าตั๋วเข้าสู่รอบฟุตบอลโลก และในครั้งนั้นแฟนบอลตะโกนชื่อของ “เดวิด เบ็คแฮม” ดังกึกก้องไปทั่วสนาม
ตำนานเบอร์ 7 ที่ไม่ได้มีจุดขายแค่เพียงหน้าตา
อย่างที่เราทราบกันดีว่าเขาคือผู้เล่นหมายเลข 7 ที่เคยแบกทีมคว้า ทวิปเปิ้ลแชมป์ได้สำเร็จในฤดูกาลที่ 1998 – 1999 ในช่วงนั้นเจ้าตัวได้สร้างผลงานอันยอดเยี่ยม และกลบฝันร้ายที่เขาได้เจอมาในฟุตบอลโลกได้สำเร็จ
ด้วยความสามารถ ที่โดดเด่น และหน้าตาที่หล่อเหลา ทำให้เขาเป็นนักเตะ ที่ดังกระหึ่มไปทั่วโลก ไม่มีใครไม่รู้จักเขาคนนี้ และเขาดังมากกว่าเดิมทันที เมื่อมีข่าวว่า นักฟุตบอลสุดหล่อคนนี้ ได้ออกเดทกับ นักร้องสาวเกิร์ลกรุ๊ปดัง อย่าง “วิกตอเรีย”
แต่ถึงแม้ว่าตำนานคนนี้จะแสดงให้เห็นถึงฝีเท้าได้ยอดเยี่ยมเพียงใด แต่เขาก็ต้องแตกหักกับผู้จัดการทีมในตอนนั้นอย่าง “เซอร์ อเล็ก เฟอร์กูสัน” นั่นก็เพราะว่าในช่วงที่เขาเริ่มคบหากับ “วิกตอเรีย” เจ้าตัวเริ่มไม่มีสมาธิในการเล่นในบางเกม ทำให้เขาต้องยุติในฐานะผู้เล่นของทัพ “ปีศาจแดง” และย้ายไปเล่นให้กับทีมออลสตาร์ในตอนนั้นอย่าง “เรอัล มาดริด”
การย้ายทีมในครั้งนั้นไม่ได้ทำให้ฟอร์มอันน่าทึ่งของเขานั้นแผ่วลงเลยแม้แต่น้อย เพราะเรายังจะได้เห็นลูกฟลีคลิกสุดเพอร์เฟ็คอีกหลาย ๆ ครั้ง และเจ้าตัวคือนักเตะที่แขวนสตั๊ดทันที หลังจากย้ายไปเล่นให้กับ “ปารีสแซงต์ แชร์กแมง” ในวัย 37 ปี
นอกจากเรื่องทั้งหมดที่เราได้กล่าวไปแล้ว เจ้าตัวยังเป็นนักเตะอังกฤษเพียงรายเดียว และคนเดียว ที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้มากถึง 4 ประเทศ ทั้ง ประเทศอังกฤษที่เขาสังกัดกับ “แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” , ประเทศสเปนเขาเล่นให้กับ “เรอัล มาดริด” , ประเทศอเมริกาเขาเล่นให้กับ “แอลเอ กาแล็กซี่” และสุดท้ายกับประเทศฝรั่งเศสเขาเล่นให้กับ “ปารีส แซงต์ แชร์กแมง”
ไม่แปลกใจที่เขา กลายเป็นนักฟุตบอลระดับโลก เพราะเขามีความฝัน และมีความพยายาม มาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1