บทความฟุตบอล | เดวิด มอยส์ ได้กอบกู้ชื่อของตัวเองกลับมา กับทีม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด หลังมีตราบาปจบไม่สวยที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
บทความฟุตบอล | เดวิด มอยส์ กุนซือสกอตแลนด์ ซึ่งเคยเป็นที่จับตาในช่วงรุ่งโรจน์กับเอฟเวอร์ตัน แต่ในรอบเกือบทศวรรษที่ผ่านมากลับผลงานตกต่ำ แล้วเพิ่งกลับมากู้ชื่อคืนได้จากการคุม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ทีมของมอยส์เปลี่ยนจากทีมหนีตกชั้น กลายมาเป็นลุ้นตำแหน่งหัวตารางอย่างน่าเหลือเชื่อ
นับตั้งแต่ออกจากเอฟเวอร์ตัน ทีมที่เขาทำงานยาวนานร่วม 10 ปี มาคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ย้ายมาทำงานกับเรอัล โซเซียดาด ในสเปน จนถึงซันเดอร์แลนด์ (ตอนทีมตกชั้นไปแชมเปี้ยนชิพเมื่อ 2017 ก็มี เดวิด มอยส์ คุมทีม) และเมื่อมาคุมทีมเวสต์แฮม ช่วงแรก ๆ นี่คือช่วงเวลาที่ เดวิด มอยส์ เปลี่ยนจากกุนซือที่ถูกวางเป็นทายาทของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กลายเป็นกุนซือทีมระดับกลางจนถึงทีมระดับท้ายตารางไปเสียได้ แทบจะไม่มีใครคิดว่า มอยส์สามารถกู้ชีพทีมขุนค้อน จนขึ้นมาเบียดแย่งอันดับในหัวตารางได้ในช่วงปลายฤดูกาล
อันที่จริงแล้ว การคุมทีมกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด คราวนี้ เป็นการคุมทีมหนที่ 2 โดยครั้งแรก มอยส์พาทีมหนีตกชั้นได้ในฤดูกาล 2017-2018 แต่ก็ไม่ได้ต่อสัญญากับทีม จนกระทั่งกลับมาเซ็นสัญญาคุมทีมเป็นครั้งที่ 2 เมื่อปลายปี 2019 ซึ่งฤดูกาลนั้นก็พาทีมหนีตกชั้นได้อีกเช่นกัน เมื่อมาถึงฤดูกาล 2020-2021 เวสต์แฮมภายใต้การนำของเดวิด มอยส์ เผชิญสถานการณ์ต่างจากหลายปีก่อน ขุนค้อนกลับยึดอันดับ 4 ของตารางหลังผ่านมาได้ 30 นัด
ขุนค้อนเป็นอีกหนึ่งสโมสรเก่าแก่ในอังกฤษ มีแฟนบอลเหนียวแน่น แต่น่าเสียดายที่ทศวรรษหลังมานี้ พวกเขาไม่สามารถทำผลงานได้อย่างที่แฟนหวัง ย้อนกลับไปเมื่อปลายปี 2020 ผลงานของเวสต์แฮมยังไม่กระเตื้องเช่นเคย ชนะนัดเดียวตลอดเดือน รั้งอันดับ 10 ในตาราง ถึงจะไม่ได้เสี่ยงหนีตกชั้น แต่ก็ไม่ได้มีลุ้นอะไรเช่นกัน
จุดหักเหของทีมขุนค้อนในฤดูกาลเริ่มขึ้นเมื่อผ่านหัวโค้งวันปีใหม่มาแล้ว มอยส์เก็บได้ 19 คะแนน จาก 24 คะแนน ค่อย ๆ ขยับอันดับขึ้นไปอยู่ในหัวตารางจากอันดับ 5 ขึ้นมาชิงอันดับ 4 พื้นที่โควตาไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปรายการใหญ่ได้เลย คำถามที่หลายคนสนใจคือ มอยส์กลับมากู้ชื่อตัวเอง เปลี่ยนทีมหนีตกชั้นให้กลายเป็นทีมที่มีผลงานติดลมบนขนาดนี้ได้อย่างไร
ฟุตบอลอังกฤษเป็นสิ่งที่มอยส์คุ้นเคยดีอยู่แล้ว เป็นฟุตบอลที่ต้องใช้พละกำลัง ความแข็งแกร่งของร่างกายผู้เล่น และเล่นฟุตบอลกันเร็ว เมื่อมาถึงฟุตบอลยุคใหม่ ลีกอังกฤษก็ยังคงเอกลักษณ์เดิม เพิ่มเติมคือความหลากหลายจากผู้จัดการระดับโลก ดูสนุกเหมือนเดิม สิ่งที่มอยส์ทำก็คือปรับโครงสร้างแคแร็กเตอร์ของเวสต์แฮม ออกมาให้ได้สมดุลเหมาะสมกับลีก
ตั้งแต่เริ่มต้นเข้ามารับงานต่อจากมานูเอล เปเญกรินี่ เขาก็เอ่ยถึงปัญหาที่ต้องปรับชัดเจนคือเรื่องเกมรับ ที่ทีมเสียประตูเยอะมาก การเล่นในสนามก็เอื่อยเฉื่อย สถิติในด้านทางกายภาพของผู้เล่นในสนาม เวสต์แฮมแทบอยู่อันดับท้ายของลีกเลย เวสต์แฮมเริ่มปรับสมดุลด้านเกมรับ ปรับสไตล์การเล่นกลับมาเป็นแบบคลาสสิก คือโฟกัสที่เกมรับอันแข็งแกร่ง แทนที่เน้นการครองบอลและผ่านบอลกันสั้น ๆ แบบฟุตบอลสมัยใหม่เพื่อทำเกมโดยรวม นั่นทำให้คู่แข่งยากจะมาเก็บแต้มจากพวกเขามากขึ้นเมื่อเทียบกับฤดูกาลก่อน
อีกสิ่งที่ทำให้เวสต์แฮมสร้างความลำบากให้คู่แข่งมากกว่าฤดูกาลก่อน ๆ คือขุนค้อนกลับมาสู่ฟุตบอลแบบโต้กลับด้วยความรวดเร็ว อาศัยพละกำลังมากขึ้นทั้งเกมรับและรุก กล่าวได้ว่า รากฐานที่มอยส์พยายามสร้างคือ ความสมดุลระหว่างเกมรับและเกมรุกแบบคลาสสิก ส่วนผสมสำคัญในองค์ประกอบนั้นคือ คู่มิดฟิลด์แดนกลางที่ทำผลงานโดดเด่นมากในลีก คือ เดแคลน ไรซ์ และโทมัส ซูเช็ก
ไรซ์ ทำหน้าที่เชื่อมเกมระหว่างแนวรับกับแผงมิดฟิลด์ เพื่อเปลี่ยนจากรับเป็นรุก เด่นทั้งการผ่านบอลและตัดเกม ขณะที่ซูเช็กก็เป็นมิดฟิลด์เกมรับที่โดดเด่นเรื่องการทำประตู คนหนึ่งครองบอล อีกคนหนึ่งสนับสนุนและเชื่อมเกมรุก ผลลัพธ์ที่ออกมาเรียกได้ว่า เป็นสมดุลที่น่าพอใจ
ปัจจัยที่สำคัญอีกอย่างคือ การคัดเลือกผู้เล่นเข้ามาเสริมทีม นักเตะหน้าใหม่ที่เข้ามาส่วนใหญ่เติมเต็มสิ่งที่ทีมต้องการได้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ จาร์ร็อด โบเว่น แนวรุกที่เป็นแกนหลักของทีม ขณะที่ เจสซี่ ลินการ์ด ซึ่งยืมมาจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ทำผลงานโดดเด่น สถิติยอดเยี่ยม ลงเล่น 8 นัด ยิง 6 ประตู และผ่านบอลให้เพื่อนทำประตูได้ถึง 3 แอสซิสต์
อีกสิ่งที่มอยส์เคยโดนวิจารณ์สมัยคุมปีศาจแดง คือ เน้นโยนบอลจากริมเส้นที่ไม่ค่อยได้ผล น่าสนใจว่าเมื่อมาเป็นเวสต์แฮม ผู้เล่นของทีมกลับรองรับสไตล์นี้ได้มากกว่า การครอสบอลเข้ามาในเขตประตู มีผู้เล่นที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีหลายราย อาทิ มิคาอิล อันโตนิโอ หรือ ซูเช็ก เอง ทำให้เวสต์แฮมมีสถิติโหม่งบอลเข้ากรอบประตู และทำประตูจากลูกโหม่งได้มากเป็นพิเศษ
โดยรวมแล้ว มอยส์สามารถสร้างสมดุลตามสไตล์คลาสสิกได้สำเร็จ แนวทางการเล่นทั้งเกมรับและเกมรุกมีผู้เล่นรองรับที่เหมาะสม เมื่อมีโอกาสจากสถานการณ์ช่วงที่เหล่าทีมใหญ่ผลงานไม่ดี เวสต์แฮมสามารถเก็บแต้มได้ในช่วงเดียวกันจนผงาดขึ้นมาได้อีกครั้ง ไม่ว่าฤดูกาลนี้จะจบลงเช่นใด ในแง่หนึ่งผลงานปีนี้ น่าจะเรียกได้ว่าเป็นช่วงกู้ชื่อของมอยส์คืนมาก็ว่าได้
ติดตามข่าวสารฟุตบอลไปกับกูรูคาเฟ่ คลิก
ให้ฟุตบอลเป็นมากกว่ากีฬา
รับทีเด็ดแม่นๆ ส่งตรงจากคอลัมนิสต์ตัวจริง
คลิกเลย @UFA88SV1