ก่อนหน้านี้ ซาอุดีอาระเบีย, กรีซ และ อียิปต์ สร้างความฮือฮาด้วยการเสนอที่จะเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก ร่วมกัน แม้ว่าทั้ง 3 ชาติจะมาจากคนละทวีปเลยก็ตาม โดยเป็นที่เชื่อกันว่า ซาอุดีอาระเบีย จะช่วยออกค่าสร้างและบูรณะสนามให้กับ กรีซ ด้วย หลังจากช่วงที่ผ่านมา กรีซ เจอกับปัญหาด้านการเงินอย่างหนัก โดยที่ ซาอุดีอาระเบีย จะได้จัดเกมการแข่งขันประมาณ 75 เปอร์เซ็นต์ของทัวร์นาเมนท์

อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา อาชราฟ โซบี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเยาวชวและกีฬาของ อียิปต์ บอกว่าพวกเขาไม่คิดที่จะขอเป็นเจ้าภาพร่วมกันแล้วจนทำให้เกิดความคลุมเครือกับโปรเจ็กต์นี้ และล่าสุด ซาอุดีอาระเบีย ก็ตัดสินใจที่จะถอนตัวเช่นกัน โดยมีการระบุว่าสาเหตุเป็นเพราะพวกเขาเชื่อว่าปี 2030 มันถึงคิวที่ชาติในทวีปยุโรปควรจะได้เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก

เมื่อ ซาอุดีอาระเบีย ถอนตัวแล้วนั้น กรีซ ก็จำเป็นต้องถอนตัวตามไปด้วย เพราะพวกเขาไม่มีการเงินดีพอที่จะเป็นเจ้าภาพแบบเดี่ยวๆ ได้ ซึ่งนี่เป็นข่าวที่น่าเซอร์ไพรส์อย่างมาก เนื่องจากหลายคนเชื่อว่าสาเหตุที่พักหลังสโมสรใน ซาอุดีอาระเบีย ตั้งใจดึงแข้งชื่อดังหลายรายมาร่วมทีมก็เพื่อที่จะเป็นการช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ให้วงการฟุตบอลของพวกเขาและเป็นการเพิ่มโอกาสที่จะได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2030 ร่วมกับ กรีซ และ อียิปต์

หากนี่เป็นความจริงมันก็จะทำให้เหลือเพียง 2 กลุ่มเท่านั้นที่ยังขอเป็นเจ้าภาพ ฟุตบอลโลก 2030 ประกอบด้วยการขอเป็นเจ้าภาพร่วมกันระหว่าง อุรุกวัย, อาร์เจนตินา, ปารากวัย และ ชิลี ส่วนอีกกลุ่มคือการจับมือกันระหว่าง สเปน, โปรตุเกส และ โมร็อกโก